แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ 20 โปรเจ็ค แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ 20 โปรเจ็ค แสดงบทความทั้งหมด

วันอังคารที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2561

โปรเจ็คที่19 หุ่นยนต์เดินตามเส้น ESP8266 NodeMCU V2

โครงงาน หุ่นยนต์เดินตามเส้น ESP8266 NodeMCU V2


โปรเจค นี้จะเป็นการนำ  ESP8266 NodeMCU V2 ESP-12E  มาทำเป็น หุ่นยนต์เดินตามเส้น

NodeMCU V2 เป็นบอร์ดที่ใช้ ESP8266 เป็น CPU สำหรับประมวลผลโปรแกรมต่างๆ มีข้อดีกว่า Arduino ตรงที่ตัวมันมีขนาดเล็กกว่า มีพื้นที่เขียนโปรแกรมลงไปมากกว่า และสามารถเชื่อมต่อกับ WiFi ได้


อุปกรณ์ที่ใช้


1. 2WD Smart Car Robot Chassis Kits

2. NodeMCU V2 CP2102 Lua WIFI ESP8266 ESP-12E

3. Micro USB Cable Wire 1m for NodeMCU

4. Breadboard 8.5CM x 5.5CM

5. Motor Driver Module HG7881

6. Jumper (M2M) 20cm

7. Jumper (F2M) 20cm

8. IR Infrared Obstacle Avoidance Sensor

9. Mounting Bracket for HC-SR04 แบบสั้น

10. แผ่นอะคริลิค

11. สกรูหัวกลม+น็อตตัวเมีย 12มม

.


การจะใช้ NodeMCU ได้นั้น จำเป็นต้องติดตั้ง แพลตฟอร์ม ESP8266  เพื่อ ทำการติดต่อ ระหว่าง Arduino IDE กับ NodeMCU

ลิงค์ : ขั้นตอนการติดตั้ง แพลตฟอร์ม ESP8266


https://robotsiam.blogspot.com/2017/06/esp8266-platform-nodemcu.html


ลิงค์ : การใช้งาน NodeMCU V2 ESP8266 ESP-12E

ประกอบหุ่นยนต์



ต่อวงจรตามรูป




เริ่มต้นด้วยการ ประกอบ 2WD Smart Car Robot Chassis Kits




ยึด รางถ่าน ขนาด AA  4 ก้อน และ ต่อสายสีแดงจากรางถ่านเข้า สวิทช์


ประกอบ  NodeMCU V2 เข้ากับ Breadboard 8.5CM x 5.5CM ติดลงที่ Smart Car 




ต่อสาย  จาก สวิทช์อีกด้าน ไปยัง ไฟ+ ของ Breadboard  และ สายสีดำจากรางถ่าน ไปยัง ไฟ- ของ Breadboard  



ยึด Motor Driver 



ต่อสาย จาก Motor Driver ทั้ง 2 ด้าน ไปยัง มอเตอร์ ทั้ง 2 ตัว



การต่อสาย มอเตอร์ด้านล่าง ทั้ง 2 ตัว



ต่อสาย จาก Motor Driver ไปยัง NodeMCU V2

Driver <-> NodeMCU 

B-IA <-> D2
B-IB <-> D1
GND <-> G
VCC <-> VIN
A-IA <-> D3
A-IB <-> D4



ต่อสาย จาก ไฟ+  ของ Breadboard  ไปยัง ขา VIN ของ NodeMCU V2 และ ต่อสาย จาก ไฟ-  ของ Breadboard  ไปยัง ขา G ของ NodeMCU V2




ภาพรวม หุ่นยนต์สำหรับทดสอบ การเคลื่อนที่ของหุ่นยนต์




  

การใช้งาน Digital/Input ซึ่งการใช้งาน Digital I/O ของ ESP8266 นั้น สามารถใช้งานคำสั่ง digitalWrite, digitalRead ได้เช่นเดียวกับการใช้งาน Digital I/O ของ Arduino โดยกำหนดหมายเลขของ Pin เช่นตัวอย่าง Pin ที่  5 หรือจะกำหนดชื่อ Pin โดยอ้างตามชื่อ Pin บนบอร์ด NodeMCU  V2 เป็น D1 ก็ได้เช่นกัน


1.ตรวจสอบการติดตั้งไดร์เวอร์ ของ NodeMCU V2 



โดย 
คลิกขวา Computet -> Properties






คลิกที่ Device Manager




ที่ Ports (COM & LPT) จะพบ 
ไดร์เวอร์ ของ NodeMCU V2 ในตัวอย่างเป็น "COM12"

(ถ้าไม่พบให้ทำการติดตั้งไดร์เวอร์ก่อน) 
การติดตั้งโปรแกรม Arduino (IDE) และ การติดตั้งไดร์เวอร์

2. ทดสอบ การเคลื่อนที่ของหุ่นยนต์





เปิดโปรแกรม Arduino (IDE) และ Upload โค้ดนี้ ไปยัง บอร์ด NodeMCU V2

// Motor A pins

int pinA2 = D1;
int pinA1 = D2;


//Motor B pins

int pinB2 = D3;
int pinB1 = D4;


//This lets you run the loop a single time for testing
boolean run = true;

void setup() {

  pinMode(pinA1, OUTPUT);
  pinMode(pinA2, OUTPUT);


  pinMode(pinB1, OUTPUT);
  pinMode(pinB2, OUTPUT);
}
void loop() {
  if (run) {
    for (int i = 0; i <= 500; i++) {
      delay(10);
    }

   
    //Go forward
    forward(400);
    coast(200);
    //Go backward
    backward(400);
    coast(200);
    //Turn left
    turnLeft(400);
    coast(200);
    //Turn right
    turnRight(400);
    coast(200);
    //This stops the loop
    run = false;
  }
}

//Define high-level H-bridge commands



void forward(int time)
{
  motorAForward();
  motorBForward();
  delay(time);
}

void backward(int time)
{
  motorABackward();
  motorBBackward();
  delay(time);
}

void turnLeft(int time)
{
  motorABackward();
  motorBForward();
  delay(time);
}

void turnRight(int time)
{
  motorAForward();
  motorBBackward();
  delay(time);
}

void coast(int time)
{
  motorACoast();
  motorBCoast();
  delay(time);
}

void brake(int time)
{
  motorABrake();
  motorBBrake();
  delay(time);
}

//Define low-level H-bridge commands


//motor A controls
void motorAForward()
{
  digitalWrite(pinA1, HIGH);
  digitalWrite(pinA2, LOW);
}

void motorABackward()
{
  digitalWrite(pinA1, LOW);
  digitalWrite(pinA2, HIGH);
}

//motor B controls
void motorBForward()
{
  digitalWrite(pinB1, HIGH);
  digitalWrite(pinB2, LOW);
}

void motorBBackward()
{
  digitalWrite(pinB1, LOW);
  digitalWrite(pinB2, HIGH);
}

//coasting and braking
void motorACoast()
{
  digitalWrite(pinA1, LOW);
  digitalWrite(pinA2, LOW);
}

void motorABrake()
{
  digitalWrite(pinA1, HIGH);
  digitalWrite(pinA2, HIGH);
}

void motorBCoast()
{
  digitalWrite(pinB1, LOW);
  digitalWrite(pinB2, LOW);
}

void motorBBrake()
{
  digitalWrite(pinB1, HIGH);
  digitalWrite(pinB2, HIGH);
}


เลือก Port ในตัวอย่างเป็น "COM12"




เลือก Board : NodeMCU 1.0 (ESP-12E Module)




Upload




ถ้ามีปัญหา Upload ไม่เข้า ขึ้น Error แสดงข้อความว่า ตามรูปภาพ 

warning: espcomm_sync failed
error: espcomm_open failed
error: espcomm_upload_mem failed






ให้กดปุ่ม RST 1 ครั้ง และ กดปุ่ม  FLASH บนบอร์ด ของ NodeMCU  ค้างไว้ ในขณะที่ทำการอัพโหลดโปรแกรม




รอจนกระทั่ง Done uploading. 100%



ใส่ แบตเตอรี่ ขนาด AA จำนวน 4 ก้อน ไปที่ รางถ่าน และ ตรวจสอบขั้วของแบตเตอรี่ ใส่ถุกต้องหรือไม่




ถ้าทุกอย่างถูกต้อง ทดลอง ยกลงวางที่พื้นแล้ว ทดสอบ  ปิดเปิด สวิทช์ไฟ Power  ถ้าทุกอย่างถูกต้อง ปรกติ รถจะเคลื่อนที่ไปข้างหน้า-ถอยหลัง แล้ว เลี้ยวซ้าย แล้ว เลี้ยวขวา



(ให้ล้อลากสีขาวเป็นท้ายของหุ่นยนต์ , ถ้าต้องการทดสอบใหม่ ให้  ปิดเปิด สวิทช์ไฟใหม่)


ถ้าหุ่นยนต์ เคลื่อนที่ปรกติ แสดงว่า หุ่นยนต์ของเราพร้อมทำงานแล้ว



การทำงานของ หุ่นยนต์เดินตามเส้น ESP8266


หุ่นยนต์และมนุษย์มีหลักการทำงานที่เหมือนกัน คือ หน่วยรับข้อมูลเข้า (Input Unit) หน่วยประมวลผล (Process Unit) และหน่วยแสดงผล (Output Unit) ดังนั้นการที่หุ่นยนต์จะเคลื่อนที่ไปให้ตรงเป้าหมาย หุ่นยนต์จะต้องมีอุปกรณ์ที่จะตรวจสอบตำแหน่งและส่งข้อมูลที่ได้ไปยังหน่วยประมวลผล เพื่อให้มอเตอร์ทำการแสดงผลโดยการไปยังเป้าหมายต่อไป อุปกรณ์พื้นฐานที่ใช้ในการตรวจสอบตำแหน่งนั้น คือ โมดูลเซ็นเซอร์แสงสำหรับตรวจจับวัตถุกีดขวาง เซ็นเซอร์ตรวจสอบการสะท้อนแสงกลับมา ได้หรือไม่ แล้วส่งสัญญาณไปยัง ESP8266 แล้ว ESP8266 จึงไปสั่งให้มอเตอร์ทำงาน โดย Motor Driver Module HG7881 ให้เป็นไปตามการส่งค่ามาของเซ็นเซอร์




เซ็นเซอร์แบบนี้จะมีช่วงในการทำงาน หรือ ระยะในการตรวจจับจะได้ใกล้กว่าแบบ Opposed mode ซึ่งในสภาวะการทำงานปกติ พื้นเเป็นสีขาว ตัวรับ Receiver จะสามารถรับสัญญาณแสงจากตัวส่ง  Emitter ได้ตลอดเวลา เนื่องจากลำแสง สะท้อนกลับมาได้ จะแสดงค่า เป็น 0



และ เมื่อพื้นเป็นสีดำ แสงสะท้อนกลับมาไม่ได้   จึงทำให้ตัวรับ Receiver ไม่สามารถรับลำแสงที่จะสะท้อนกลับมาได้ จะแสดงค่า เป็น 1



โปรเจค หุ่นยนต์เดินตามเส้น ESP8266 NodeMCU V2 นี้ เราจะใช้ 2 เซ็นเซอร์อินฟราเรด คือด้านซ้ายและด้านขวา  โดย เมื่อเซ็นเซอร์ ทั้งด้านซ้ายและด้านขวา ตรวจสอบแล้วเป็นพื้นสีขาว ลำแสง สามารถสะท้อนกลับมาได้ทั้งคู่  ( 0 , 0 ) ให้หุ่นยนต์เคลื่อนที่ไปข้างหน้า





หากเซ็นเซอร์ซ้ายมาพบพื้นสีดำ  และ เซ็นเซอร์ขวาพบพื้นสีขาว ( 1 , 0 ) ให้หุ่นยนต์เลี้ยวไปทางด้านซ้าย



หากเซ็นเซอร์ขวามาพบพื้นสีดำ  และ เซ็นเซอร์ซ้ายพบพื้นสีขาว ( 0 , 1 ) ให้หุ่นยนต์เลี้ยวไปทางด้านขวา

หากเซ็นเซอร์ทั้งสองมาอยู่บนเส้นสีดำทั้งคู่ ( 1 , 1 ) ให้หุ่นยนต์หยุด




3. ประกอบ เซ็นเซอร์ ทั้ง 2 ตัว เข้ากับหุ่นยนต์




NodeMCU <-> เซ็นเซอร์

VIN <-> VCC (ซ้าย,ขวา)
G <-> GND (ซ้าย,ขวา)
D5 <-> OUT (ซ้าย)
D6 <-> OUT (ขวา)


ตัดแผ่นอะคริลิค ขนาด 3 x 10 เซ็นติเมตร
ประกอบ เซ็นเซอร์ซ้ายและขวา




ประกอบ เข้ากับหุ่นยนต์



เชื่อมต่อสาย เซ็นเซอร์ซ้ายและขวา





  

4. ทดสอบการทำงานของ เซ็นเซอร์ ทั้ง 2 ตัว



หลังจาก หุ่นยนต์เคลื่อนที่ หยุดแล้ว ตรวจสอบเซ็นเซอร์


โดยให้... เมื่ออยู่ที่พื้นสีขาว ให้ไฟ LED ติด 2 ดวง



และ เมื่อ เข้าไปในพื้นที่ สีดำ ให้ ไฟ LED ติด 1 ดวง




ถ้ายังไม่ได้ตามด้านบน ให้ใช้ ไขควง ปรับเซ็นเซอร์ ที่ สี่เหลี่ยมสีฟ้า-ขาว


ถ้าได้ แสดงว่า เซ็นเซอร์ ทั้ง 2 ตัว นั้นพร้อมทำงานแล้ว


ภาพรวม หุ่นยนต์เดินตามเส้น  NodeMCU V2







เปิดโปรแกรม Arduino (IDE) และ Upload โค้ด หุ่นยนต์เดินตามเส้น ไปยัง บอร์ด NodeMCU V2



/*

 * By : RobotSiam.com
 */

// Motor A pins

int pinA2 = D1;
int pinA1 = D2;


//Motor B pins

int pinB2 = D3;
int pinB1 = D4;


int sensor_L ,  sensor_R ; //optical sensor values



void setup()
{


  pinMode(pinA1, OUTPUT);
  pinMode(pinA2, OUTPUT);

  pinMode(pinB1, OUTPUT);
  pinMode(pinB2, OUTPUT);


}

void loop()
{


  sensor_L = digitalRead (D5) ;
  sensor_R = digitalRead (D6) ;



  if ((sensor_L == 0) && (sensor_R == 0) )
    forward(1);
  else if ((sensor_L == 1) && (sensor_R == 0) )
    turnLeft(10);
  else if ((sensor_L == 0) && (sensor_R == 1) )
    turnRight(10);
  else if ((sensor_L == 1) && (sensor_R == 1) )
    disableMotors();

  else
    forward(1);
}

//Define high-level H-bridge commands

void enableMotors()
{
  motorAOn();
  motorBOn();
}

void disableMotors()
{
  motorAOff();
  motorBOff();
}

void forward(int time)
{
  motorAForward();
  motorBForward();
  delay(time);
}

void backward(int time)
{
  motorABackward();
  motorBBackward();
  delay(time);
}

void turnLeft(int time)
{
  motorABackward();
  motorBForward();
  delay(time);
}

void turnRight(int time)
{
  motorAForward();
  motorBBackward();
  delay(time);
}

void coast(int time)
{
  motorACoast();
  motorBCoast();
  delay(time);
}

void brake(int time)
{
  motorABrake();
  motorBBrake();
  delay(time);
}
//Define low-level H-bridge commands

//enable motors
void motorAOn()
{
  //digitalWrite(enableA, HIGH);
}

void motorBOn()
{
  //digitalWrite(enableB, HIGH);
}

//disable motors
void motorAOff()
{
  //digitalWrite(enableB, LOW);
}

void motorBOff()
{
  //digitalWrite(enableA, LOW);
}

//motor A controls
void motorAForward()
{
  digitalWrite(pinA1, HIGH);
  digitalWrite(pinA2, LOW);
}

void motorABackward()
{
  digitalWrite(pinA1, LOW);
  digitalWrite(pinA2, HIGH);
}

//motor B controls
void motorBForward()
{
  digitalWrite(pinB1, HIGH);
  digitalWrite(pinB2, LOW);
}

void motorBBackward()
{
  digitalWrite(pinB1, LOW);
  digitalWrite(pinB2, HIGH);
}

//coasting and braking
void motorACoast()
{
  digitalWrite(pinA1, LOW);
  digitalWrite(pinA2, LOW);
}

void motorABrake()
{
  digitalWrite(pinA1, HIGH);
  digitalWrite(pinA2, HIGH);
}

void motorBCoast()
{
  digitalWrite(pinB1, LOW);
  digitalWrite(pinB2, LOW);
}

void motorBBrake()
{
  digitalWrite(pinB1, HIGH);
  digitalWrite(pinB2, HIGH);
}






โปรเจคที่20 รถของเล่นควบคุมด้วย Bluetooth ใช้ Arduino

บลูทู ธ ควบคุมรถ Robo ใช้ Arduino
 รถของเล่นควบคุมด้วย Bluetooth ใช้ Arduino

หลังจากการพัฒนาที่นิยมไม่กี่โครงการหุ่นยนต์เหมือนหุ่นยนต์สายลูกศิษย์ , ขอบหลีกเลี่ยงหุ่นยนต์ , DTMF หุ่นยนต์ , ท่าทางการควบคุมหุ่นยนต์อื่น ๆ ในโครงการนี้เราจะไปพัฒนาบลูทูธ ควบคุมรถโบ ที่นี่เราใช้โมดูลบลูทูธ เพื่อควบคุมรถและเป็นแอปพลิเคชันที่ใช้ Android

ส่วนประกอบ


  • Arduino UNO
  • มอเตอร์กระแสตรง
  • โมดูล Bluetooth HC-05
  • มอเตอร์ไดร์เวอร์ L293D
  • แบตเตอรี่ 9 โวลต์และแบตเตอรี่ 6 โวลต์
  • ขั้วต่อแบตเตอรี่
  • รถของเล่น


บลูทูธควบคุมรถถูกควบคุมโดยใช้โทรศัพท์มือถือ Android แทนวิธีอื่นใดเช่นปุ่มท่าทางเป็นต้นที่นี่ต้องสัมผัสปุ่มในโทรศัพท์ Android เพื่อควบคุมรถไปข้างหน้าย้อนกลับทิศทางซ้ายและขวา ดังนั้นที่นี่โทรศัพท์ Android จะใช้เป็นอุปกรณ์ส่งสัญญาณและโมดูล Bluetooth วางอยู่ในรถจะใช้เป็นผู้รับ โทรศัพท์ Android จะส่งคำสั่งโดยใช้บลูทูธ ในตัวกับรถยนต์เพื่อให้สามารถเคลื่อนไปในทิศทางที่ต้องการเช่นการเดินหน้าย้อนกลับเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาและหยุด

โมดูลบลูทูธ
โมดูล HC Bluetooth ประกอบไปด้วยสองสิ่งคือโมดูลอินเทอร์เฟซแบบบลูทูธ และอะแดปเตอร์บลูทูธ โมดูลอนุกรม Bluetooth ใช้สำหรับแปลงพอร์ตอนุกรมเป็น Bluetooth

วิธีการใช้งานโมดูลบลูทูธ 
คุณสามารถใช้โมดูลบลูทูธ ได้โดยตรงหลังจากซื้อจากตลาดเนื่องจากไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนการตั้งค่าใด ๆ ของโมดูล Bluetoothค่าเริ่มต้นของโมดูลบลูทูธ ใหม่คือ 9600 bps คุณเพียงแค่ต้องเชื่อมต่อ rx และ tx กับคอนโทรลเลอร์หรือตัวแปลงอนุกรมและให้แหล่งจ่ายไฟ 5 โวลต์ dc ที่กำหนดให้กับโมดูล
โมดูลบลูทูธ มีสองโหมดหนึ่งคือโหมดต้นแบบและโหมดที่สองคือโหมดทาส ผู้ใช้สามารถตั้งค่าโหมดใดก็ได้โดยใช้คำสั่ง AT บางคำ แม้ผู้ใช้สามารถตั้งค่าของโมดูลโดยใช้คำสั่ง AT ต่อไปนี้เป็นคำสั่งใช้จะได้รับ:
ก่อนอื่นผู้ใช้ต้องเข้าสู่โหมด AT ด้วยอัตราความเร็วในการรับส่งข้อมูล 38400 bps โดยกดปุ่ม EN ที่โมดูลบลูทูธ หรือโดยให้ระดับ HIGH ที่ EN PIN หมายเหตุ: คำสั่งทั้งหมดควรลงท้ายด้วย \ r \ n (0x0d และ 0x0a) หรือ ENTER KEY จากแป้นพิมพ์
หลังจากนั้นถ้าคุณส่ง AT ไปที่โมดูลโมดูลจะตอบสนองด้วยตกลง
AT → Test Command
AT + ROLE = 0 →เลือกโหมด Slave
AT + ROLE = 1 →เลือกโหมดต้นแบบ
AT + NAME = xyz →ตั้งชื่อบลูทูธ
AT + PSWD = xyz →ตั้งรหัสผ่าน
AT + UART = <value1>, <value2>, <value3> →ตั้งอัตราการถ่ายโอนข้อมูล
เช่น. ที่ + UART = 9600,0,0
Pin คำอธิบายของ accelerometer
  1. STATE →เปิด
  2. Rx →ขารับสัญญาณอนุกรม
  3. Tx →พินส่งสัญญาณแบบอนุกรม
  4. GND → ground
  5. Vcc → + 5volt dc
  6. EN →เพื่อเข้าสู่โหมด AT


อธิบายการทำงาน

ในโครงการนี้เราได้ใช้รถของเล่นเพื่อสาธิตที่นี่เราได้เลือกรถของเล่นแบบเรดิโอด้วยคุณสมบัติพวงมาลัยซ้ายขวา หลังจากซื้อรถคันนี้เราได้เปลี่ยนวงจร RF ด้วยวงจร Arduinoของเราแล้ว รถคันนี้มีมอเตอร์ dc สองตัวที่ด้านหน้าและด้านหลัง มอเตอร์ด้านหน้าจะใช้สำหรับให้ทิศทางรถหมายถึงการหันไปทางซ้ายหรือขวา (เช่นคุณสมบัติของระบบบังคับเลี้ยวจริง) และมอเตอร์ด้านหลังใช้สำหรับขับรถไปข้างหน้าและถอยหลัง โมดูลบลูทูธ ใช้เพื่อรับคำสั่งจากโทรศัพท์ Android และ Arduino UNO ใช้สำหรับควบคุมระบบทั้งหมด
บลูทู ธ ควบคุม robo รถแผนภาพบล็อก
บลูทูธควบคุมรถเคลื่อนที่ตามปุ่มที่สัมผัสในแอนดรอยด์บลูทูธแอปมือถือในการใช้โปรเจกต์นี้ก่อนอื่นเราต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชันรูปแบบแอปพลิเคชัน Google Play สโตร์ เราสามารถใช้แอปพลิเคชันบลูทูธใด ๆ ที่สนับสนุนหรือสามารถส่งข้อมูลต่อไปนี้คือชื่อแอปบางส่วนที่อาจทำงานได้อย่างถูกต้อง
- Bluetooth Spp pro
- ตัวควบคุม Bluetooth

หลังจากติดตั้งแอปพลิเคชันแล้วคุณต้องเปิดและค้นหาอุปกรณ์บลูทูธแล้วเลือกอุปกรณ์บลูทูธที่ต้องการแล้วกำหนดค่าคีย์ ที่นี่ในโครงการนี้เราได้ใช้แอพพลิเคบลูทูธควบคุม
  1. ดาวน์โหลดและติดตั้ง Bluetooth Controller
  2. เปิด Bluetooth มือถือ
  3. เปิดแอปพลิเคชันบลูทูธตัวควบคุมแล้ว
  4. กดสแกน
  5. เลือกอุปกรณ์บลูทูธ ที่ต้องการ
  6. ตอนนี้ตั้งค่าคีย์โดยการกดปุ่มตั้งบนหน้าจอเมื่อต้องการตั้งค่าคีย์เราจำเป็นต้องกดปุ่มตั้งค่าและตั้งค่าตามภาพด้านล่าง:
แอพพลิเคชัน Bluetooth Controller Android
หลังจากตั้งค่าคีย์กด ok 
เมื่อเราแตะปุ่มไปข้างหน้าในแอพพลิเคชัน Bluetooth controller รถจะเริ่มเคลื่อนที่ไปข้างหน้าและเคลื่อนที่ต่อไปจนกว่าจะมีคำสั่งต่อไป
เมื่อเราแตะปุ่มย้อนกลับในแอปพลิเคชัน Bluetooth controller รถจะเริ่มเคลื่อนที่ไปในทิศทางย้อนกลับและเคลื่อนที่ต่อไปจนกว่าจะถึงคำสั่งถัดไป
เมื่อเราแตะปุ่มซ้ายในแอปพลิเคชัน Bluetooth controller รถจะเริ่มเคลื่อนที่ไปทางซ้ายและเคลื่อนที่ต่อไปจนกว่าคำสั่งถัดไปจะมาถึง ในสภาพนี้มอเตอร์ด้านหน้าจะหมุนล้อหน้าไปทางซ้ายและมอเตอร์หลังจะวิ่งไปข้างหน้า
เมื่อเราแตะปุ่มขวาในแอปพลิเคชันตัวควบคุม Bluetooth รถจะเริ่มเคลื่อนที่ไปในทิศทางที่ถูกต้องและเคลื่อนไปทางขวาจนกว่าจะมีคำสั่งต่อไป ในสภาพนี้มอเตอร์ด้านหน้าจะหมุนล้อหน้าไปทางขวาและมอเตอร์หลังจะทำงานในทิศทางไปข้างหน้า
และโดยการกดปุ่มหยุดเราสามารถหยุดรถได้

แผนผังวงจรและคำอธิบาย

 บลูทู ธ ไดรฟ์วงจรควบคุมรถยนต์
แผนภาพวงจรสำหรับรถบลูทูธควบคุมจะแสดงในรูปข้างต้น คนขับมอเตอร์เชื่อมต่อกับ arduino เพื่อขับรถ ขาเข้าขาเข้าของมอเตอร์ 2, 7, 10 และ 15 เชื่อมต่อกับหมายเลขดิจิตอล 12, 11, 10 และ 9 ตามลำดับของ arduino ที่นี่เราได้ใช้มอเตอร์ DC สองตัวกับคนขับรถซึ่งมอเตอร์ตัวหนึ่งเชื่อมต่อที่ขาขาออกของมอเตอร์ 3 และ 6 และมอเตอร์ตัวอื่นเชื่อมต่อที่ 11 และ 14 แบตเตอรี่ 6 โวลต์ยังใช้เพื่อขับเคลื่อนมอเตอร์สำหรับขับมอเตอร์แท่ง rx และ tx ของโมดูลบลูทูธเชื่อมต่อโดยตรงที่ tx และ rx ของ Arduino และ vcc และสายดินของโมดูลบลูทูธ เชื่อมต่อที่ +5 โวลต์และ gnd ของ Arduino และใช้แบตเตอรี่ 9 โวลต์เพื่อจ่ายกระแสไฟวงจรที่ขา Vin ของ Arduino
  

คำอธิบายโครงการ

 ในโปรแกรมแรกเราได้กำหนดขาออกสำหรับมอเตอร์
# กำหนด m11 11 // มอเตอร์ด้านหลัง
#define m12 12
#define m21 10 // มอเตอร์ด้านหน้า
#define m22 9
จากนั้นในเซ็ตอัพเราให้คำแนะนำในการปักหมุด
การตั้งค่าเป็นโมฆะ () 
{
  Serial.begin (9600);
  pinMode (m11, OUTPUT);
  pinMode (m12, OUTPUT);
  pinMode (m21, OUTPUT);
  pinMode (m22, เอาท์พุท);
}
หลังจากนี้เราจะอ่านข้อมูลเข้าโดยใช้โมดูลการสื่อสารแบบอนุกรมของ Bluetooth และดำเนินการตามขั้นตอนดังกล่าว
void loop () 
{
  ในขณะที่ (Serial.available ())
  {
    char ch = Serial.read ();
    STR [ผม ++] = CH;
    
    ถ้า (STR [I-1] == '1')
    {
     Serial.println ( "ไปข้างหน้า");
     ไปข้างหน้า ();
     i = 0;
    }

    else if (str [i-1] == '2')
    {
     Serial.println ( "ซ้าย");
     ขวา();
     i = 0;
    }

    else if (str [i-1] == '3')
    {
      Serial.println ( "ขวา");
      ซ้าย();
      i = 0;
    }
จากนั้นเราได้สร้างฟังก์ชันสำหรับทิศทางต่างๆของรถ มีห้าเงื่อนไขสำหรับรถยนต์ที่มีการควบคุมบลูทูธนี้ซึ่งใช้ในการระบุทิศทาง:
ปุ่มสัมผัสในแอพพลิเคชันตัวควบคุม Bluetooth
 เอาต์พุตสำหรับมอเตอร์ด้านหน้าเพื่อให้ทิศทาง

เอาต์พุตสำหรับมอเตอร์ด้านหลังเพื่อเลื่อนไปข้างหน้าหรือย้อนกลับ

ปุ่ม
M11
M12
M21
M22
ทิศทาง
หยุด
0
0
0
0
หยุด
ข้างหน้า
0
0
0
1
ข้างหน้า
ย้อนกลับ
0
0
1
0
ย้อนกลับ
ขวา
1
0
0
1
ขวา
ซ้าย
0
1
0
1
ซ้าย
รหัส
# ระบุ m11 11 // มอเตอร์ด้านหลัง
# กำหนด m12 12 
# ระบุ m21 10 // มอเตอร์ด้านหน้า
#define m22 9
char str [2], i;
โมฆะไปข้างหน้า () 

   digitalWrite (m11, LOW); 
   digitalWrite (m12, LOW); 
   digitalWrite (m21, สูง); 
   digitalWrite (m22, LOW); 
}
โมฆะถอยหลัง () 

   digitalWrite (m11, LOW); 
   digitalWrite (m12, LOW); 
   digitalWrite (m21, LOW); 
   digitalWrite (m22, สูง); 
}
ถือเป็นโมฆะทางซ้าย () 

   digitalWrite (m11, HIGH); 
   digitalWrite (m12, LOW); 
   ล่าช้า (100); 
   digitalWrite (m21, สูง); 
   digitalWrite (m22, LOW); 
}
สิทธิเป็นโมฆะ () 

   digitalWrite (m11, LOW); 
   digitalWrite (m12, สูง); 
   ล่าช้า (100); 
   digitalWrite (m21, สูง); 
   digitalWrite (m22, LOW); 
}
โมฆะ Stop () 

   digitalWrite (m11, LOW); 
   digitalWrite (m12, LOW); 
   digitalWrite (m21, LOW); 
   digitalWrite (m22, LOW); 
}
การตั้งค่าเป็นโมฆะ ()  

  Serial.begin (9600); 
  pinMode (m11, OUTPUT); 
  pinMode (m12, OUTPUT); 
  pinMode (m21, OUTPUT); 
  pinMode (m22, เอาท์พุท); 
}
void loop ()  

  ขณะที่ (Serial.available ()) 
  { 
    char ch = Serial.read (); 
    STR [ผม ++] = CH; 
 
    if (str [i-1] == '1') 
    { 
     Serial.println ("Forward"); 
     ไปข้างหน้า (); 
     i = 0; 
    }
    else if (str [i-1] == '2') 
    { 
     Serial.println ("ซ้าย"); 
     ขวา(); 
     i = 0; 
    }
    else if (str [i-1] == '3') 
    { 
      Serial.println ("Right"); 
      ซ้าย(); 
      i = 0; 
    } 
 
    else if (str [i-1] == '4') 
    { 
      Serial.println ("ย้อนกลับ"); 
      ย้อนกลับ(); 
      i = 0; 
    }
    else if (str [i-1] == '5') 
    { 
      Serial.println ("หยุด"); 
      หยุด(); 
      i = 0; 
    } 
    ล่าช้า (100); 
  } 
}
วีดีโอ



งานที่ 5 ระบบควบคุณภาพในสถานประกอบการ

มาตรฐาน ISO 9001 ISO 9001 เป็นมาตรฐานสากลที่องค์กรธุรกิจทั่วโลกให้ความสำคัญ เพื่อความเป็นเลิศทางด้านคุณภาพ และความมีประสิทธิภาพของการ...