วันพฤหัสบดีที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2561

Mini Project


Arduino RGB LED Bluetooth Control and Playing LED Cube 4x4x4








ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ 8x8x8 LED CUBE WITH ARDUINO UNO


หลักการ

LED จะติดและวิ่งตามที่เขียนโปรแกรมไว้และสามารถเลือกสีของหลอด LED ได้โดยใช้แอบจาก
Play Store โดยใช้สัญญาณ Bluetooth เป็นตัวส่งสัญญาณ Control

อุปกรณ์ ราคา จำนวน

1.Arduino - 1
2.Hc-05 Bluetooth Serial Module ราคา 170 บ. 1
3.LED RGB 5mm ราคา 15 บ. 64
4.ฐานไม้ ราคา 20 บ. 1


ราคารวม 510 บ.


สมาชิก
นางสาว จิรวดี ดวงหิรัญ เลขที่ 03 สมค.1
นาย ธนพล หาญธงชัย เลขที่ 10 สมค.1




วันจันทร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2561

โปรเจคที่11 โปรเจค Arduino เปิด ปิดไฟ AC 220V ด้วยเสียง

            โปรเจค Arduino เปิด ปิดไฟ AC 220V ด้วยเสียง

เปิดปิดไฟ AC 220V ด้วยเสียง


เรียนรู้วิธีควบคุม Arduino  ด้วย เซ็นเซอร์เสียง Voice Sound Detection Sensor Module เราจะควบคุม การ เปิด ปิดไฟ AC 220V ด้วยเสียงตบมือ โดยเราจะใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับเสียง +  รีเลย์ และแสดงผลด้วยไฟ หลอดไฟบ้าน

อุปกรณ์ที่ใช้


1. Arduino UNO R3 - Made in italy


2. Sensor Shield V 5.0

3. สาย Jumper Female to Male ยาว 20cm.

4. สาย Jumper Female to Female ยาว 20cm. 

5. Relay 1 Channel 5V DC Solid State High Level Trigger


6. Voice Sound Detection Sensor Module

7. สกรูหัวกลม+น็อตตัวเมีย ขนาด 3มม ยาว 12มม


อุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ เช่น หลอดไฟ , ปลั๊กไฟ , ขั้วหลอดไฟ , สายไฟ หาซื้อได้ตามร้านขายอุปกรณ์ไฟฟ้าทั่วๆไป


การต่อวงจร ระหว่าง  
Sensor Shield กับ เซ็นเซอร์เสียง


Shield <-> เซ็นเซอร์เสียง

G     <-> GND
V     <-> VCC
S(4) <-> OUT


การต่อวงจร ระหว่าง  Sensor Shield กับ รีเลย์





Shield <-> 
รีเลย์

G     <-> DC-
V     <-> DC+
S(5) <-> CH1


การต่อวงจร ระหว่าง  Sensor Shield + เซ็นเซอร์เสียง + 
รีเลย์




ใช้สาย USB เชื่อมต่อระหว่าง คอมพิวเตอร์ กับ Arduino UNO R3





เปิดโปรแกรม Arduino (IDE) และ Upload โค้ดนี้ ไปยัง บอร์ด Arduino UNO R3




int sound_sensor = 4;

int relay = 5;

int clap = 0;
long detection_range_start = 0;
long detection_range = 0;
boolean status_lights = false;

void setup() {
  pinMode(sound_sensor, INPUT);
  pinMode(relay, OUTPUT);
}

void loop() {
  int status_sensor = digitalRead(sound_sensor);
  if (status_sensor == 0)
  {
    if (clap == 0)
    {
      detection_range_start = detection_range = millis();
      clap++;
    }
    else if (clap > 0 && millis()-detection_range >= 50)
    {
      detection_range = millis();
      clap++;
    }
  }
  if (millis()-detection_range_start >= 400)
  {
    if (clap == 2)
    {
      if (!status_lights)
        {
          status_lights = true;
          digitalWrite(relay, HIGH);
        }
        else if (status_lights)
        {
          status_lights = false;
          digitalWrite(relay, LOW);
        }
    }
    clap = 0;
  }

}




ไปที่ Tools > Board เลือกเป็น Arduino/Genuino UNO



ไปที่ Tools > Port แล้วเลือกพอร์ตที่ปรากฏ (กรณีใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่มี COM Port มากกว่าหนึ่ง  ให้เลือกตัวอื่นที่ไม่ใช่ COM1)

ในตัวอย่างเลือกเป็น "COM3"

(ถ้ายังว่าง หรือ เป็น COM1 ให้ตรวจสอบการติดตั้งไดร์เวอร์ การต่อสาย USB ของ Arduino UNO)



(ถ้าไม่พบให้ทำการติดตั้งไดร์เวอร์ก่อน) 
การติดตั้งโปรแกรม Arduino (IDE) และ การติดตั้งไดร์เวอร์



กดปุ่ม 
 เพื่ออัพโหลด


หากสามารถอัพโหลดโปรแกรมลงบอร์ดได้สำเร็จ จะแสดงคำว่า Done uploading. ที่แถบด้านล่าง



ให้เอาไขควงหมุน ปรับค่าการรับสัญญาณเสียง โดยให้หมุนตัว R ปรับค่าได้ แบบ trimpot สีฟ้า



ให้ไฟ LED สีเขียว ด้านซ้ายมือติดดวงเดียว เมื่อตบมือให้  LED สีเขียวด้านขวามือ กระพริบ ตาม การตบมือของเรา




และ เมื่อตบมือ 2 ครั้ง ให้ ไฟ LED สีแดง ที่ รีเลย์ ติด และ เมื่อ ตบมืออีก 2 ครั้ง ให้ ไฟ LED สีแดง ที่ รีเลย์ ดับ




การต่อวงจร ระหว่าง  หลอดไฟ กับ รีเลย์












โปรเจคที่10 โปรเจคเครื่องตรวจจับและแจ้งเตือนแก๊สไวไฟรั่วไหล

 โครงงานเครื่องตรวจจับและแจ้งเตือนแก๊สไวไฟรั่วไหลรูปที่ 1 วงจรการต่อใช้งานจริง




คุณสมบัติของเครื่องตรวจจับและแจ้งเตือนแก๊สไวไฟรั่วไหล

  • สามารถตรวจจับแก๊สไวไฟได้ทุกชนิด
  • สามารถเลือกระดับปริมาณแก๊สในอากาศเพื่อทำการแจ้งเตือนได้
  • ใช้แรงดัน 5 VDC
  • แสดงปริมาณแก๊สไวไฟเป็นเปอร์เซ็นต์ผ่านจอ LCD

การต่อวงจรสำหรับเครื่องตรวจจับและแจ้งเตือนแก๊สไวไฟรั่วไหล

รูปที่ 2 การต่อวงจรภายในเครื่องตรวจจับและแจ้งเตือนแก๊สไวไฟรั่วไหลรูปที่ 2 การต่อวงจรภายในเครื่องตรวจจับและแจ้งเตือนแก๊สไวไฟรั่วไหล

การต่อวงจรภายในเครื่องตรวจจับและแจ้งเตือนแก๊สไวไฟรั่วไหล

ส่วนประกอบหลังคือ บอรด์ STM32F4 ซึ่งใช้เป็นตัวประมวลผลกลางสำหรับเครื่องโดยคุณสมบัติของบอรด์นี้ สามารถประมวลผลที่ความเร็วสูงสุดถึง 184 Mhz มี ADC และ DAC ขนาด 12 bit ให้แรงดันไปเลี้ยงสูงสุดไม่เกิน 5VDC ทำงานจริงที่แรงดัน 3.3 VDC ส่วนต่อมาคือ POWER SUPPLY ขนาดแรงดันใช้งานที่ 5 VDC ซึ่งให้เป็นแหล่งจ่ายให้กับ ทั้งวงจร
ส่วนต่อมา คือ เซนเซอร์ตรวจจับแก๊สไวไฟเบอร์ MQ-2 มีคุณสมบัติในการตรวจจับแก๊สไวไฟทุกชนิดโดยให้สัญญาณ OUTPUT เป็นความต้านทานที่เปลี่ยนแปลงไปเมื่อปริมาณแก๊สไวไฟมีปริมาณเปลี่ยนแปลงเราจึงสามารถทำการวัดเทียบเพื่อหาเปอร์เซ็นต์ของแก๊สไวไฟในอากาศได้ ส่วนต่อมาคือ BUSSER หรือสำโพงขนาดเล็กมีหน้าที่สร้างสัญญาณเสียงเพื่อเตือนในกรณีที่ตรวจพบว่าแก๊สไวไฟในบริเวณนั้นมีปริมาณที่มากกว่าที่ได้ตั้งกำหนดค่าใว้ ต่อมาเป็น สวิตช์ขนาดเล็กแบบกดติดปล่อยดับ 2 ตัว เพื่อใช้ในการกำหนดค่าของเปอร์เซ็นต์ในการแจ้งเตือนว่าจะแจ้งเตือนเมื่อตรวจวัดแก๊สได้กี่เปอร์เซ็นต์ ส่วนสุดท้ายเป็นจอแสดงผลขนาด 16X2 ตัวอักษรเพื่อใช้ในการแสดงผลเปอร์เซ็นต์แก๊สที่สามารถตรวจวัดได้จากเซนเซอร์และเปอร์เซ็นต์ที่ทำการตั้งใว้เพื่อให้ทำการแจ้งเตือนออกทางลำโพงขนาดเล็ก

ส่วนประกอบวงจรประกอบไปด้วย

  1. บอร์ด STM32F401VG จำนวน 1 บอร์ด
  2. เซนเซอร์ตรวจวัดแก๊สไวไฟเบอร์ MQ-2 จำนวน 1 ตัว
  3. สำโพงขนาดเล็ก จำนวน 1 ตัว
  4. สวิตช์กดติดปล่อยตับ จำนวน 2 ตัว
  5. จอ LCD ขนาด 16X2 จำนวน 1 ตัว
  6. แหล่งจ่ายไฟขนาด +5 VDC จำนวน 1 ชุด

หลักการทำงาน

รูปที่ 2 หน้าจอ LCD เมื่อทำการเปิดเครื่องรูปที่ 2 หน้าจอ LCD เมื่อทำการเปิดเครื่อง
เมื่อเปิดเครื่องที่หน้าจอ LCD บรรทัดที่ 1 จะแสดงค่าของ เปอร์เซ็นต์ของแก๊สในบรรยากาศในพื้นที่นั้นๆ และในบรรทัดที่สองจะแสดงค่าเปอร์เซ็นต์แก๊สที่ผู้ปฏิบัติงานทำการตั้งค่าระดับเพื่อทำการแจ้งเตือน ดังแสดงในรูปที่ 2
รูปที่ 3 ทำการทดสอบโดยปล่อยแก๊สจากไฟแก๊สใส่หัวเซนเซอร์รูปที่ 3 ทำการทดสอบโดยปล่อยแก๊สจากไฟแก๊สใส่หัวเซนเซอร์

เราทำการทดสอบโดยการใช้แก๊สไวไฟจากหัวไปแก๊สปล่อยเข้าไปที่หัวของเซนเซอร์เพื่อทำการทดสอบโดยเซนเซอร์นี้จะมีความต้านทานที่แปรผันกับปริมาณของแก๊สเราจึงใช้หลักการของ Voltage Divider มาทำการประยุกต์เพื่อทำการเทียบหาความต้านทานโดยเราส่งแรงดันที่ได้จาก Voltage Divider ไปเข้าที่ ADC ของไมโครคอลโทรลเลอร์และนำไปเข้าสมการที่ได้ทำการคำนวณใว้เพื่อหาค่าความต้านทานหลังจากนั้นเราจึงนำค่าความต้านทานมาเทียบกับปริมาณแก๊สเพื่อหาค่าของเปอร์เซ็นต์แก๊สภายในบรรยากาศ
รูปที่ 4 ผลที่ได้เมื่อทดลองปล่อยแก๊สจากไฟแก๊สใส่หัวเซนเซอร์รูปที่ 4 ผลที่ได้เมื่อทดลองปล่อยแก๊สจากไฟแก๊สใส่หัวเซนเซอร์
ผลที่ได้เมื่อทำการทดสอบ ค่าเปอร์เซ็นต์แก๊สพุ่งสูงเข้าใกล้ 100 เปอร์เซ็นต์ ดังแสดงในรูปที่ 4 เมื่อเราทำแก๊สไวไฟเข้าใกล้ๆ และค่าจะเริ่มลดลงเมื่อเราทำออกห่างมา

รูปที่ 5 ในสภาวะที่สวิตซ์ไม่ถูกกด
รูปที่ 5 ในสภาวะที่สวิตซ์ไม่ถูกกด
ในสภาวะปกติสวิตช์นั้นไม่ถูกกดทั้ง IN0 และ IN1 ค่า SET ALAM ในหน้าจอ LCD จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงจะค้างค่าอยู่ที่ค่าเดิม
รูปที่ 6 ในสภาวะที่กดสวิตซ์ IN0
รูปที่ 6 ในสภาวะที่กดสวิตซ์ IN0
เมื่อทดลองกดสวิตซ์ IN0 สองครั้งจะได้ค่า SET ALAM เพิ่มขึ้นครั้งละ 10 เปอร์เซ็นต์ซึ้งจะได้ 20 เปอร์เซ็นต์
รูปที่ 7 ผลที่ได้จากการกด กดสวิตซ์ IN0รูปที่ 7 ผลที่ได้จากการกด กดสวิตซ์ IN0
ที่หน้าจอ LCD จะแสดงผลที่หน้าจอ ในส่วนของ SET ALAM จะแสดงค่าเท่ากับ 20 เปอร์เซ็นต์
รูปที่ 8 ในสภาวะที่กดสวิตซ์ IN1
รูปที่ 8 ในสภาวะที่กดสวิตซ์ IN1
เมื่อทดลองกดสวิตซ์ IN1 หนึ่งครั้งจะได้ค่า SET ALAM ลดลงครั้งละ 10 เปอร์เซ็นต์ซึ้งจะได้ 10 เปอร์เซ็นต์
รูปที่ 9 ผลที่ได้จากการกด กดสวิตซ์ IN1รูปที่ 9 ผลที่ได้จากการกด กดสวิตซ์ IN1
ที่หน้าจอ LCD จะแสดงผลที่หน้าจอ ในส่วนของ SET ALAM จะแสดงค่าเท่ากับ 10 เปอร์เซ็นต์
รูปที่ 10 ทดลองปล่อยแก๊สไปที่เซนเซอร์เมื่อ SET ALAM เท่ากับ 50
รูปที่ 10 ทดลองปล่อยแก๊สไปที่เซนเซอร์เมื่อ SET ALAM เท่ากับ 50
ผลที่ได้คือเมื่อค่า PECENS GAS มีค่ามากกว่าค่า SET ALAM ทำให้ลำโพงขนาดเล็กจะดังขึ้นเพื่อทำการแจ้งเตือนว่ามีแก๊สรั่วในปริมาณมากกว่าที่ได้กำหนดใว้ ดังรูปที่ 10 แต่ถ้า PECENS GAS มีค่าน้อยกว่าค่า SET ALAM ลำโพงจะไม่ดัง

ตัวอย่างในการติดตั้งใช้งาน


รูปที่ 11 ตัวอย่างการติดตั้งรูปที่ 11 ตัวอย่างการติดตั้ง
ควรทำการติดตั้งใว้ใกล้บริเวณที่อาจจะมีแก๊สรั่วไหลเช่นในห้องครัวตามบ้านเรือน หรือ ในโรงงานอุตสาหกรรมที่ใช้แก๊สในกระบวนการ ซึ่งความคิดตั้งใว้ เหนือบริเวณถังแก๊สเล็กน้อย เพื่อให้เซนเซอร์อยู่ใกล้กับถังแก๊สเพื่อทำการตรวจจับได้ดี แต่มีข้อแนะนำในการติดตั้งความจะใส่กล่องให้ดีเพื่อไม่ให้แก๊สไวไปถูกวงจรอิเล็กทรอนิกส์อาจจะทำให้เกิดประกายไปและนำไปสู่การระเบิดได้

โปรแกรม Simulink ที่สมบูรณ์ของโครงงานเครื่องตรวจจับและแจ้งเตือนแก๊สไวไฟรั่วไหล


รูปที่ 13 โปรแกรมภาพรวมจาก Simulink
รูปที่ 13 โปรแกรมภาพรวมจาก Simulink

อธิบายโปรแกรมหลัก

หมายเลข 1 เป็นการประกาศเพื่อกำหนด เลือกตัวคอมไพเลอร์ เบอร์ไมโครคอลโทรลเลอร์ที่จะทำการเขียน ความเร็วในการประมวลผมที่จะใช้ และ รูปแบบของการดาวน์โหลดโปรแกรมลงตัว ไมโครคอลโทรลเลอร์
หมายเลข 2, 3, 4 และ 5 เป็นการประการตัวแปรเพื่อจองพื้นที่หน่วยความจำภายในไมโครคอลโทรเลอร์เพื่อเก็บค่าต่างๆที่ใช้ในการแสดงผลออกทางหน้าจอ LCD
หมายเลข 6 และ 7 เป็น sub program ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับการแสดงผลออกจากจอ LCD และ การนับขึ้นลงเพื่อนำค่าไปใช้ในการกำหนดเปอร์เซ็นต์ของแก๊สไวไฟเพื่อทำการแจ้งเตือน ซึ่งจะทำการแยกอธิบายอีกครั้ง
หมายเลข 8 เป็นการประกาศใช้ ADC ที่ขา PA1 เพื่อใช้ในการอ่านค่าสัญญาณจากเซนเซอร์
หมายเลข 9 เป็นการคูณค่า 3.3/4095 กับค่าที่ได้จากค่า ADC จากขา PA1 เพื่อแปลงค่าช่วง 0 – 4096 เป็นช่วงแรงดันจากเซนเซอร์ในช่วง 0 – 3.3 V
หมายเลข 10 เป็น MATHLAB function (PECENS GAS) ซึ่งใช้ในการคำนวณค่าเปอร์เซ็นต์ของแก๊สไวไฟในบรรยากาศซึ่งนำค่าแรงดันที่ได้จากเซนเซอร์ มาทำการคำนวณ
หมายเลข 11 เป็นการนำค่าที่คำนวณได้จาก MATHLAB function ไปเก็บใว้ในตัวแปลที่ประกาศใว้ก่อนหน้าและนำค่าไปแสดงผลที่จอ LCD ใน บรรทัดที่ 1
หมายเลข 12 เป็นค่าคงที่ที่ใช้ในการปรับเปอร์เซ็นต์ duty cycle ของ สัญญาณ PWM เพื่อ กำหนดเสียสัญญาณเตือนออกไปที่ลำโพงขนาดเล็ก
หมายเลข 13 เป็นการนำค่าคงที่ PWM มาคูณกับค่า ที่ได้จากการ เปรียบเทียบ หรือ comparator ซึ่งจะมีค่าเพียง 0 และ 1 ซึ่งจะทำให้สัญญาณที่ไปจ่ายให้ duty cycle ของ สัญญาณ PWM มีค่า แค่ 0 และ 50
หมายเลข 14 เป็นการประกาศใช้ PWM ที่ขา PA9 และรับค่าตัวแปรเป็น duty cycle ในช่วง 0-100 เปอร์เซ็นต์
หมายเลข 15 เป็นการคำค่าของตัวแปรที่ได้จาก sub program (COUNT) มาใช้ในการเปรียบเทียบกับค่าที่ได้จากการวัดด้วยเซนเซอร์
หมายเลข 16 เป็นตัวเปรียบเทียบค่าเปอร์เซ็นต์ที่คำนวณได้จากเซนเซอร์ และค่าเปอร์เซ็นต์ที่ได้จากการตั้งค่าจากปุ่มกด
รูปที่ 15 ภายใน Sub Program ของ LCDรูปที่ 15 ภายใน Sub Program ของ LCD

อธิบาย Sub Program ของ LCD

หมายเลข 6.1 เป็นการประกาศเพื่อกำหนดขาของไมโครคอลโทรลเลอร์เพื่อที่จะทำการเชื่อมต่อกับจอ LCD ซึ่งในที่นี้เราจะใช้การเชื่อมต่อสื่อสารแบบ 4 bit ทางเดียว และกำหนดขาที่จะทำการสื่อสารเป็นขา PE7 – PE9 และ PE12 – PE15
หมายเลข 6.2 และ 6.4 เป็นการกำหนดค่าคงที่ในการแสดงผลให้แก่จอ LCD ซึ่งเป็นการกำหนดแถว บรรทัด แลจุดเริ่มต้นในการแสดงผล
หมายเลข 6.3 และ 6.5 เป็นการนำรูปแบบการแสดงผลข้อความที่จะแสดงผลที่เราได้ตั้งค่ากำหนดค่าใว้แล้วนั้นมาทำการส่งออกออกทางจอ LCD เพื่อแสดงผล ซึ่ง 6.3 จะเป็นบรรทัดที่ 1 และ 6.5 จะเป็นบรรทัดที่ 2
หมายเลข 6.6 และ 6.7 เป็นการนำค่าที่ได้เก็บใว้ในตัวแปรส่งไปแสดงผลที่จอ LCD
รูปที่ 17 ภายใน Sub Program ของ COUNTรูปที่ 17 ภายใน Sub Program ของ COUNT

อธิบาย Sub Program ของ COUNT

หมายเลข 7.1 เป็นการกำหนดขา DIGITAL INPUT ซึ่งรับสัญญาณจากสวิตซ์ ซึ่งใช้ ขา PD5 รับสัญญาณจาก สวิตซ์ตัวที่ 1 และ ขา PD6 รับสัญญาณจาก สวิตซ์ตัวที่ 2
หมายเลข 7.2 เป็น MATHLAB function (COUNT_FUNCTION) ใช้ในการนับขึ้นลงของสวิตซ์ซึ่งจะทำการอธิบายรายละเอียดอีกครั้ง
หมายเลข 7.3 เป็นการนำค่าที่ได้จาก MATHLAB function (COUNT_FUNCTION) ไปเก็บใว้ในตัวแปร cn1
หมายเลข 7.4 เป็นการนำค่าที่ได้จาก MATHLAB function (COUNT_FUNCTION) ไปเก็บใว้ในตัวแปร comparator
หมายเลข 7.5 นำค่าที่เก็บใว้ในตัวแปร cn1 มาใช้งาน
หมายเลข 7.6 นำค่าจากตัวแปร cn1 ที่ถูกส่งให้ไปแสดงผลที่จอ LCD

รูปที่ 18 MATHLAB FUNCTION (PECENS GAS)
รูปที่ 18 MATHLAB FUNCTION (PECENS GAS)
อธิบาย โค๊ดจาก MATHLAB FUNCTION (PECENS GAS)
Image 016

รูปที่ 19 MATHLAB FUNCTION (COMPARATOR)
รูปที่ 19 MATHLAB FUNCTION (COMPARATOR)
อธิบาย โค๊ดจาก MATHLAB FUNCTION (COMPARATOR)
Image 018

รูปที่ 20 MATHLAB FUNCTION (COUNT_FUNCTION)
รูปที่ 20 MATHLAB FUNCTION (COUNT_FUNCTION)
อธิบาย โค๊ดจาก MATHLAB FUNCTION (COUNT_FUNCTION)Image 020

วันอังคารที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2561

สัญลักษณ์ Flowchar

สัญลักษณ์ Flowchar



      สัญลักษณ์ Flowchart คำว่า Flowchart มักนำไปใช้ในทางโปรแกรม กล่าวคือสำหรับคนที่ศึกษาเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรม ก่อนอื่นจะต้องเข้าใจ Flowchart จะแสดงกระบวนการทำงานต่างๆ ความหมายต่างๆ ของสัญลักณ์ใน Flowchart 

สัญลักษณ์



คำอธิบาย



ทิศทางการไหลของระบบ ไปตามหัวลูกษร
การดำเนินการของระบบ เช่น เพิ่มค่าให้กับตัวเลข
จุดเริ่มต้น หรือจุดจบของระบบ เช่น เปิดโปรแกรม 
เป็นจุดตรวจสอบเงื่อนไขระบบ หรือ เป็นจุดที่แยกระบบการทำงานย่อยๆ เช่น ตรวจสอบค่า ว่ามากหรือน้อยกว่าที่กำหนดไว้
หยุดรอเวลา เช่น หน่วงเวลาชั่วคราว เพื่อรอ process อื่นทำให้เสร็จ
เป็นการเตรียมค่าเริ่มต้นของระบบย่อย เช่น เรียก ค่าconfig ของระบบ เพื่อใช้ประมวลในระบบย่อย
เอกสาร หรือ รายงาน เช่น รายงานยอดขาย
เป็นจุดที่รับค่าจาก ระบบ หรือ ส่งค่าออกจากระบบ(เพื่อส่งให้ display) เช่น input ค่าตัวแปรเข้า function หรือ return ค่าออกจาก function
เตรียมค่าของระบบ เช่น อ่านค่า config ของระบบ
จุดแสดงผลให้ผู้ใช้ เช่น ปรากฏข้อความว่า สำเร็จ
เป็นจุดที่รับค่าจาก user เช่น กรอกชื่อผู้ใช้งาน
กระบวนการทำงานที่ไม่เป็นโดยอัตโนมัติ เช่น เปิด switch
เป็นจุดเชื่อมระบบ จากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง เช่น กรณีที่ระบบซ้อนกันมากๆ อาจจะทำจุดเชื่อมแทน เพื่อไม่ให้เกิด flow ที่ตัดกัน
จุดเชื่อมต่อหน้ากระดาษ เช่น ออกแบบแล้วเต็มหน้ากระดาษก็เชื่อมต่อไปขึ้นหน้าใหม่
เป็น logic OR เช่น input1 OR input2
เป็น logic AND เช่น input1 AND input2
แปลงข้อมูลให้อยู่ใน รูปแบบมาตรฐานเช่น ทำให้เป็น XML เช่น โหลดชื่อภาพแปลงให้อยู่ใน XML format
เรียงข้อมูล เช่น เรียงชื่อจากน้อยไปมาก หรือ มากไปน้อย
บันทึกข้อมูล ลงที่เก็บ
ฐานข้อมูล เช่น mysql, sql server
บันทึกข้อมูลลงไฟล์ เช่น เขียนผลลัพท์ลงเป็นไฟล์
เก็บข้อมูลไว้ที่ memory เช่น ทำ cache ข้อมูลไว้ที่ memory


ตัวอย่าง Flowchar


member register flowchart